เชื่อว่าหลายคนมีคำถามเกี่ยวกับราคาเพชร เมื่อไปซื้อเพชรที่ร้านขายเพชร เช่น แหวนเพชร สร้อยเพชร ต่างหูเพชร กำไรเพชรเป็นต้น เครื่องประดับชิ้นนั้นมองภายนอกเหมือนกันทุกอย่าง เพชรมีน้ำหนักกะรัตเท่ากัน แต่ทำไมราคาถึงต่างกัน ราคาเพชรขึ้นอยู่กับอะไร สิ่งที่ร้านเพชรอาจไม่เคยบอกคุณ เรามีคำตอบ
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาเพชร
1.คุณภาพ
แม้จะเป็นเพชรที่มีกะรัตเท่ากัน แต่ร้านเพชรขายราคาไม่เท่ากัน เนื่องจากคุณภาพต่างกัน สิ่งที่ป็นเกณฑ์ชี้วัดคุณภาพของเพชร ได้แก่ ความสะอาด ซึ่งมีผลต่อราคาเพชรโดยตรง เพชรไร้ตำหนิเป็นเพชรที่มีราคาสูง สีมีผลต่อราคาเป็นเช่นกัน ในปัจจุบันนิยมสีขาวใสและเพชรน้ำร้อยหรือเกรด D Color เป็นเพชรที่มีราคาสูง การเจียระไนมีผลต่อราคาเพชรด้วย เพชรที่มีการเจียระไนสมมาตรได้สัดส่วน จะเปล่งประกายเล่นกับแสงไฟได้ดี เพชรระดับ 3 Excellent Cut ราคาจะสูงกว่าเพชรทั่วไป
2.ฟลูออเรสเซนต์
ฟลูออเรสเซนต์คือการเรืองแสงของเพชรใต้แสง UV ทำให้เพชรสะท้อนสีออกมา เพชรที่มีการสะท้อนสีฟ้าเป็นเพชรที่ติด ฟลูออเรสเซนต์หรือเพชรติดฟลูจะมีราคาถูกกว่าเพชรที่ไม่ติดฟลู แต่อย่างไรก็ตาม ข้อดีของเพชรติดฟลูคือทำให้เพชรดูขาวใสแม้จะไม่ใช่เพชรน้ำร้อย แต่ก็จะดูเหมือนเพชรน้ำร้อยนั่นเอง
3.อัตราแลกเปลี่ยน
ราคาของเพชรขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนด้วย โดยทั่วไปแล้วราคาเพชรอ้างอิงจากราคา USD ไม่ต่างจากน้ำมันหรือทองคำเลยดังนั้น ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนอ่อนค่าลง เช่น จากเดิม 35 บาทต่อ USD เปลี่ยนเป็น 37 บาทต่อ USD นั่นหมายความว่าคุณต้องจ่ายเงินมากขึ้นทำให้รู้สึกว่าราคาแพงขึ้นนั่นเอง
4.ใบเซอร์ของเพชร
ใบ certificate ของเพชรมีผลต่อราคาเพชรอย่างไร เพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันที่เชื่อถือได้ เช่น GIA, HRD หรือ IGI มีราคาสูงกว่าเพชรที่มีใบเซอร์รับรองจากสถาบันอื่นหรือไม่มีใบเซอร์รับรอง เพชรที่มีใบเซอร์รับรองโดยสถาบันที่เชื่อถือได้ทำให้คุณมั่นใจว่าเป็นเพชรแท้ ดังนั้น เวลาซื้อเพชรที่ร้านเพชรจะต้องดูด้วยว่าร้านเพชรมีใบเซอร์รับรองหรือไม่และเป็นใบเซอร์ของสถาบันอะไร แม้จะไม่ได้การันตีว่าเป็นเพชรที่มีคุณภาพดีแต่อย่างน้อยก็การันตีว่าไม่ใช่เพชรปลอมแน่นอน
ปัจจุบันร้านเพชรต่างๆ จะอ้างอิงราคาเพชรจากราคากลางเป็นหลัก (Rapaport) ดังนั้น ถ้าอยากรู้ว่าร้านเพชรขายเพชรแพงหรือถูก ก็ควรนำไปเปรียบเทียบกับราคากลาง ร้านเพชรออนไลน์มักจะขายเพชรราคาถูกกว่าก็จริงแต่คุณต้องดูให้ดี เลือกร้านเพชรที่เชื่อถือได้เท่านั้น